“แมนสรวง” หนังเรื่องแรกแบบไม่วายของ BeOnCloud กวาด 2 รางวัลใหญ่ของงานประกาศรางวัลภาพยนตร์ไทยอย่างสุพรรณหงส์ ครั้งที่ 32
จบไปแล้วอย่างยิ่งใหญ่สำหรับงานประกาศรางวัลสุพรรณหงส์ ครั้งที่ 32 ประจำปี 2566 ซึ่งถือว่าเป็นงานที่สำคัญมากของวงการภาพยนตร์ไทยที่จัดโดยสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม ภายในงานเรียกได้ว่าเป็นการรวมตัวของบุคคลในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยอย่างคับคั่งทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง
โดยปีนี้มีหนังไทยที่เข้าชิงรางวัลทั้งสิ้น 54 เรื่องในหลากหลายสาขา หนึ่งในนั้นคือภาพยนตร์เรื่องแรกของ BeOnCloud อย่างแมนสรวง ภาพยนตร์ย้อนยุคแนวสืบสวนสอบสวนเข้มข้นนำแสดงโดย อาโป ณัฐวิญญ์ และ มาย ภาคภูมิ นักแสดงในสังกัดพร้อมด้วยนักแสดงระดับคุณภาพของวงการภาพยนตร์และละครเวทีที่มาเพิ่มความเข้มข้นแบบจัดจ้านให้ หากพูดถึงความกล้าของค่ายน้องใหม่ที่กล้าทำหนังที่ไม่ได้อยู่ในกระแสหลักแบบนี้ออกมา ก็แทบจะเรียกว่ามีความบ้าบิ่นพอตัวกันเลย เพราะมันคือการนำทั้งความพีเรียด สืบสวน การเมือง แถมด้วยศิลปะไทยอย่างการรำมาเป็นตัวเด่น ดำเนินเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นใน “แมนสรวง” สถานเริงรมย์ที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น ที่ใช้เป็นสถานที่สังสรรค์ของกลุ่มคนชั้นสูง รวมไปถึงเป็นสถานที่เจรจาเรื่องลับ ๆ ของบุคคลที่มีอำนาจขับเคลื่อนบ้านเมืองได้ในยุคนั้น ดูไปก็แอบคิดไปว่านี่คือเนื้อเรื่องที่เกิดขึ้นในยุคนั้นแต่ทำไมมันถึงรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก และดูจะสะท้อนอะไรบางอย่างจากหรืออาจจะเรียกได้ว่าอะไรแบบนี้คงมีมากันนานแล้วทุกยุคทุกสมัย
เพิ่มความน่าสนใจมากขึ้นด้วยงานภาพที่วิจิตร ปราณีต เป็นงานศิลป์ระดับคุณภาพที่ตรึงตาตั้งแต่ช่วงโปรโมตหนังเลยทีเดียว สมกับที่รวมตัวท็อปของวงการผลิตของไทยมาอยู่ในเรื่องนี้ ทั้งมุมกล้องที่ใช้ถ่ายทำ การจัดแสง การตัดต่อ โทนสี เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่มีการรังสรรค์และประยุกต์ขึ้นมาใหม่ ผสมผสานความไทยและฝรั่งได้อย่างเพลินตา สมกับ 2 รางวัลที่เรื่องนี้ได้รับในงานสุพรรณหงส์ ครั้งที่ 32 อย่างรางวัลออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม (Best Costume Design) : กิจจา ลาโพธิ์, นักรบ มูลมานัส และ รางวัลกำกับศิลป์ยอดเยี่ยม (Best Art Direction) : นักรบ มูลมานัส, สุประสิทธิ์ ภูตะคาม ที่ถูกสื่อสารออกมาผสมกับหลากวัฒนธรรมได้อย่างลงตัวผ่านมุมมองของทีมงาน
สิ่งที่สัมผัสได้อย่างชัดเจนจากภาพยนตร์เรื่องนี้คงเป็นความตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะทำให้ภาพยนตร์ไทยไปอยู่ในระดับที่ไกลมากเท่าที่จะทำได้ ต้องขอขอบคุณรางวัลในครั้งนี้ที่น่าจะเป็นเหมือนเครื่องชูกำลังของทีมงานในอุตสาหกรรมนี้ให้กับอีกหลาย ๆ คน ให้มีพลังที่จะสร้างสรรค์สิ่งที่แปลกใหม่ให้ผู้ชมได้เห็นผลงานที่หลากหลายมากขึ้น นอกเหนือจากหนังตามกระแสที่มีอยู่มากมายในปัจจุบัน
ขอยินดีกับภาพยนตร์ทุกเรื่องที่ได้รับรางวัลในงานครั้งนี้ ซึ่งถือว่าเป็นการรวมตัวของกลุ่มคนในวงการที่พร้อมผลักดัน ส่งเสริม ร่วมแชร์ไอเดีย และให้กำลังใจกันในการยกระดับคุณภาพของภาพยนตร์ไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายทั้งในไทยและต่างประเทศ